MSCHF: The Craziest Brand That Shakes the Whole World!

MSCHF แบรนด์สตาร์ทอัปจากนิวยอร์ก ผู้สร้างปรากฏการณ์ไวรัลด้วยไอเทมแหวกแนวและไอเดียสุดบ้าบิ่นที่โลกต้องจับตา

...

MSCHF: เปิดโลกแบรนด์หลุดโลกที่สร้างกระแสไวรัลระดับโลก

“อิหยังวะ?” คิดว่านี่คงเป็นคำที่ทุกคนมักอุทานเวลาเห็นงานของ MSCHF (อ่านว่า Mis-Chief) ปล่อยออกมาบนโลกโซเชียล ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่างานของพวกเขาเนี่ย มันก็มีความน่า “อิหยังวะ” อยู่จริงๆ แถมไอเทมที่ถูกปล่อยออกมา ก็ดันเป็นไวรัลแทบจะทั้งหมด เพราะฉะนั้น SASOM คิดว่าคำถามสำคัญที่ทุกคนอยากรู้ก็คงเป็น “พวกเขาคือใคร?” และ “งานของพวกเขาต้องการจะสื่ออะไร?”

วันนี้ SASOM จะพามาทุกคนมาเปิดโลกแบรนด์หลุดโลกที่สร้างกระแสไวรัลระดับโลกอย่าง MSCHF กันดีกว่า

...

MSCHF คืออะไร?

MSCHF เป็นกลุ่ม Artist Collective และ Start-up จากมหานครนิวยอร์กที่ก่อตั้งเมื่อปี 2016 โดย Gabriel Whaley และเขาเป็นอดีตพนักงานบริษัท BuzzFeed ที่เป็นเว็บไซต์พวกข่าวตลกโปกฮา ปั่นๆ สำหรับมนุษย์ออฟฟิศที่เกิดอาการ bored-at-work ได้ไปแอบนั่งไถฟีดดูกันให้หายเบื่อ โดย MSCHF ถือว่าพวกเขาคือกลุ่มศิลปินรุ่นใหม่ที่มีเป้าหมายในการสร้างงานศิลปะที่ท้าทายกรอบความคิดแบบเดิมๆ ไม่ได้มุ่งเน้นแต่การสร้างสินค้าและขายเพียงอย่างเดียว ทว่าต้องการสร้าง "ปรากฏการณ์" ที่จะทำให้ผู้คนตั้งคำถามและวิพากษ์วิจารณ์ตัวงานและสังคมอย่างมีเหตุผล

ชาว SASOM ทุกคนคงคุ้นเคยอยู่แล้วว่า สไตล์งานของ MSCHF จะเป็นงานแบบเสียดสีอย่างเจ็บแสบ บางชิ้นไม่เน้นใช้งาน แต่เน้นการสร้างคำถามให้ปวดสมอง ไอเทมจาก MSCF มันจะเต็มไปด้วยความยียวน ปั่นประสาท และตลกร้ายไปในทางเดียวกัน จนอาจเรียกได้ว่าเป็นงานกวนส้นตี-ระดับนึง แต่ทั้งหมดไม่ได้เป็นแค่งานเอาคอนเทนต์เฉยๆ เพราะทุกคอลเลกชันที่มาจาก MSCHF มันมักจะมีแก่นสาระอะไรบางอย่างให้เราขบคิด ซึ่งจริงๆ แล้ว SASOM เคยทำบทความเกี่ยวกับพวกเขาไปก่อนหน้านี้ แต่ว่าครั้งนี้เราจะมาเจอะตัวงานเด่นๆ ของเขากันว่ามันต้องการจะสื่ออะไร และมันสร้างอะไรให้กับสังคมในฐานะงานศิลปะบ้าง

...

ไอเทมที่สร้างชื่อจนเป็นเรื่องให้กับ MSCHF

บทความก่อนหน้านี้ของ SASOM เราพูดเรื่องรองเท้า Big Red Boots รองเท้าบูตที่ทรงเหมือนรองเท้าจากเรื่องเจ้าหนูอะตอม (ถึงแม้จะไม่ใช่ก็ตาม) ไปแล้ว เพราะมันฮิตมากๆ ในบ้านเรา ใครใส่คือได้คอนเทนต์ไปเต็มๆ เพราะฉะนั้นบทความนี้ SASOM จะพามาดูไอเทมสร้างชื่อจนเป็นเรื่องของ MSCHF เพื่อพอให้เห็นภาพตัวตนของพวกเขาแบบคร่าวๆ กันสัก 2 คอลเลกชัน

...

รองเท้าซาตาน Satan Shoes เป็นงานของ MSCHF ที่จับเอารองเท้า Nike Air Max 97 มาคัสตอม โดยดีเทลของมันนี่เข้าขั้นล่อแหลมสุดๆ เพราะมีการอ้างพระคัมภีร์ไบเบิล ลูกา 10:18 “พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า ‘เราเห็นซาตานตกจากฟ้าเหมือนฟ้าแลบ’” (Jesus said, “I have observed Satan fall like lightning from the sky.” LUKE 10:18) มีเครื่องประดับและสกรีนดาวห้าแฉก ซึ่งคนทั่วไปเชื่อว่าคือสัญลักษณ์ลัทธิบูชาซาตาน แถมกิมมิกของมันดันเป็นการผสมเลือดของมนุษย์จริงๆ ใส่ลงไปในส่วน Air Bubble ของพื้นรองเท้า และมีการจัดจำหน่ายแค่ 666 คู่เท่านั้น! นอกจากนี้ยังได้ Lil Nas X แรปเปอร์ชื่อดังที่มีคาแรกเตอร์จี๊ดจ๊าดมาเป็นพรีเซนเตอร์ผสมโรงเข้าไปอีก! ด้วยความที่ทุกองค์ประกอบมันพร้อมใจให้เปรี้ยงปร้าง ทำให้งานนี้หลังจากที่ Sold out ไปเรียบร้อย Nike ก็จัดการฟ้องร้อง MSCHF ในข้อหาจัดทำรองเท้า Satan shoes โดยปราศจากความยินยอมจากบริษัท แม้ว่าเป็นข้อหาที่ดูออกจะแปลกๆ ไปเสียหน่อย เพราะนี่ก็ไม่ใช่งานคัสตอมรองเท้า Nike คู่แรกของ MSCHF เนื่องจากก่อนหน้านี้มี MSCHF Nike Air Max 97 Jesus ที่ใช้พระเยซูเป็นคอนเซปต์หลักมาก่อน แต่จริงๆ แล้วสาเหตุที่โดนฟ้องก็ดูไม่ยาก เพราะว่า MSCHF Nike Air Max 97 Satan มันดันดังเป็นไวรัล แต่ดังในทางลบเสียมากจนทำให้เกิดกระแสบอยคอต Nike เนื่องจากชาวคริสเตียนคิดว่ามันเป็นงาน Collaboration จากตัว Nike เอง ซึ่งถือว่างานนี้ Nike ดันต้องมารับจบไปเต็มๆ จนทำให้แบรนด์เสียหายอย่างแรง เรื่องก็เลยบานปลายมาที่หมายศาลนี่แหละ แถมรองเท้าซาตานคู่นี้สร้างกระแสถกเถียงอย่างมากในสังคม มีทั้งคนชอบในฐานะงานศิลปะ บ้างก็ว่ามันคือการลบหลู่ ไม่รู้ว่าฝ่ายไหนผิดถูกกันแน่ แต่ที่แน่ๆ MSCHF ทำสังคมเสียงแตกไปเต็มๆ

...

ต่อมาเป็น MSCHF Blur หรือเงินเบลอ เป็นโปรเจกต์ของแบรนด์ที่เอาฟิกเกอร์กองเงินสด มาทำให้เบลอจนเหมือนกระดาษปริ้นต์สีตกน้ำ ซึ่งคอลเลกชันนี้ไม่ได้โดนฟ้องหรือมีเรื่องอะไรมากมายหรอก แต่เพราะว่าคอนเซปต์ของมันคือการตั้งคำถามคุณค่าของเงินแบบตรงๆ ยิ่งเราอยู่ในโลกทุนนิยมเข้มข้นแบบนี้ ไม่แปลกเลยว่าทำไม MSCHF Blur $20 USD Figure หรือกองเงินแบงค์ 20 ดอลลาร์ ได้กลายเป็นหนึ่งในคอลเลกชันที่ดังมากๆ ของแบรนด์ เพราะราคาของมันโตขึ้นถึง 700% นับจากที่วางขายในปี 2020 แถมยังมีออกมาหลากหลายสกุลเงิน และเมื่อถามว่ามันสามารถเอาไปทำอะไรได้ไหม SASOM ขอเรียนตามตรงว่า ‘ไม่ได้’ โดยตรง แต่ในทางอ้อมนั่นก็คือ MSCHF Blur มันมีไว้ ‘เก็บสะสม’ ในฐานะงานศิลปะนั่นเอง ซึ่งไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเป็นไวรัลอีกแล้ว เพราะว่าหากคุณค่าของเงินคือการใช้เป็นตัวกลางแลกเปลี่ยนสิ่งของและบริการ ตัว MSCHF Blur $20 USD Figure ก็ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ทำได้เช่นนั้น หรือถ้าจะจับไปใช้งานในลักษณะเดียวกับรองเท้าซาตาน ที่อย่างน้อยก็ยังใส่ได้จริง ตัวเงินเบลอมันก็ไม่ได้เอาไปใส่หรือสวมอะไรได้ มันทำได้แค่ให้เราสะสม และใคร่ครวญถึงคุณค่าของเงินและศิลปะ สะท้อนแนวคิดที่ลึกซึ้งผ่นาความปั่นประสาท ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องถนัดของ MSCHF เลยทีเดียว

BLUR 福 อั่งเปาที่อิหยังวะเหมือนเดิม

BLUR 福 คือคอลเลกชันที่ MSCHF ปล่อยออกมารับวันตรุษจีน และ Sold out เป็นที่เรียบร้อยในประเทศจีนนั่นเอง ซึ่งถามว่ามันคืออะไร? มันคือ Blurry Red Envelope หรือที่เราเรียกกันว่า ‘ซองอั่งเปา’ มาทำให้มันเบลอ ไม่ต่างอะไรกับงานชิ้นก่อนๆ อย่าง MSCHF Blur $20 USD Figure และถ้าถามว่าเอาไปทำอะไรต่อได้ SASOM ก็ตอบเหมือนเดิมว่า MSCHF BLUR 福 คืองานศิลปะที่เอาไว้เก็บสะสมเหมือนคอลเลกชันก่อนหน้านั่นแหละ! แต่เพราะว่า 福 มีความหมายคือ โชคลาภ หรือ ความโชคดี ไม่แน่ว่างานชิ้นนี้อาจจะกำลังสะท้อนเกี่ยวกับคุณค่าของการให้ ‘อั่งเปา’ ในเทศกาลตรุษจีนอยู่ก็ได้ ซึ่งจะลึงซึ้งหรือตื้นเขิน ก็สุดแล้วแต่พวกเราทุกคนจะใคร่ครวญเกี่ยวกับมัน ซึ่งคอลเลกชันนี้มีวางขายแล้วที่ SASOM ในราคาป้ายแค่ 1,190 บาทเท่านั้น!

สรุป: MSCHF ความบ้าบอที่เราต้องการ

MSCHF พิสูจน์ให้เห็นว่าการตลาดในยุคใหม่ไม่ได้วัดความสำเร็จเพียงยอดขาย แต่วัดจากความสามารถในการสร้างสรรค์ประสบการณ์และกระแสที่น่าจดจำ แบรนด์นี้ได้พลิกโฉมหน้าอุตสาหกรรมสตรีทแวร์และวัฒนธรรมป๊อป ด้วยแนวคิดที่ท้าทายและไม่เคยหยุดนิ่ง พวกเขาหยิบจับสิ่งที่ใกล้ตัวเรา และตั้งคำถามที่ดูเหมือนจะปั่นประสาท แต่ก็ทำให้เอ๊ะอยู่ในใจ ความยียวนนี้ไม่ต่างกับความตลกร้ายที่เกิดขึ้นในสังคม ไม่ว่าจะความเชื่อ ศาสนา ทุนนิยม เงิน หรือโชคลาภ ทุกสิ่งทุกอย่างมีการดำรงอยู่ (Existence) ในฐานะอะไร และใครเป็นผู้ให้คุณค่าแก่สิ่งต่างๆ เหล่านั้น ความหลุดโลกของ MSCHF อาจเป็นเครื่องย้อนถามว่าแท้จริงแล้ว ‘มนุษย์’ คืออะไรกันแน่ ซึ่งเราอาจต้องการมากกว่าที่คิด

และถ้าใครอยากเก็บงานศิลปะและคอลเลกชันสุดปั่นตามสไตล์ MSCHF โดยเฉพาะไอเทมใหม่ล่าสุดอย่าง MSCHF BLUR 福 ที่ sold out เป็นที่เรียบร้อยแล้วในประเทศจีน แต่ SASOM ขายราคาป้ายแค่ 1,190 บาทเท่านั้น สามารถซื้อ-ขายได้ที่ www.sasom.co.th หรือแอปพลิเคชัน SASOM (iOS/Android) รับรองปลอดภัย หายห่วง ส่งถึงมือแน่นอน!

แล้วมาร่วมกันปวดหัวไปกับงานของ MSCHF กัน!

บทความแนะนำ

    MSCHF: The Craziest Brand That Shakes the Whole World! | SASOM