PEACEMINUSONE: The Utopia of G-Dragon

PEACEMINUSONE: โลกแห่งอุดมคติของ G-Dragon และการร่วมมือกับแบรนด์ยักษ์ใหญ่ Nike

...

PEACEMINUSONE: โลกแห่งอุดมคติของ G-Dragon และการร่วมมือกับแบรนด์ยักษ์ใหญ่ Nike

ในโลกของอุตสากรรมแฟชั่นและดนตรี มีชื่อหนึ่งที่โดดเด่นเหนือใคร นั่นคือ G-Dragon หรือ ควอน จียง หัวหน้าวง BIGBANG ผู้ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นราชาแห่งเพลง K-pop แต่ยังเป็นไอคอนแห่งวงการแฟชั่นอีกด้วย วันนี้เราจะพาคุณไปสำรวจโลกของ PEACEMINUSONE แบรนด์ที่สะท้อนจิตวิญญาณของ G-Dragon และการร่วมมือกับ Nike ที่สั่นสะเทือนวงการสนีกเกอร์

G-Dragon: จากราชา K-pop สู่ไอคอนแฟชั่น

ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่โลกของ PEACEMINUSONE เราต้องทำความรู้จักกับ G-Dragon ให้มากขึ้น ควอน จียง เกิดเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 1988 เขาเริ่มต้นอาชีพในวงการบันเทิงตั้งแต่อายุเพียง 6 ขวบ และก้าวสู่การเป็นหัวหน้าวง BIGBANG ในปี 2006 ด้วยความสามารถในการแต่งเพลง การแสดง และสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เขาได้รับการยกย่องว่าเป็น "ไอดอลของเหล่าไอดอล" รวมถึงการสรรเสริญในฐานะ “King of K-Pop”

ทว่า G-Dragon ไม่เพียงแต่มีอิทธิพลในวงการเพลงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวงการแฟชั่น ศิลปะ และการศึกษาอีกด้วย โดยเขาเล่าว่ากว่าจะเป็นไอคอนทางด้านแฟชั่นเหมือนทุกวันนี้ คนที่เปรียบเสมือนจุดเริ่มต้นก็คือแม่ของเขา เพราะเธอคือสไตล์ลิสต์คนแรกในชีวิตที่คอยจัดแจงเสื้อผ้าหน้าผมให้เขาก่อนขึ้นเวทีตั้งแต่ 6 ขวบ G-Dragon ยอมรับว่านั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาหลงใหลในแฟชั่น และผลักดันตัวเองจนมาถึงวันที่ได้รับการยอมรับจากดีไซเนอร์ชั้นนำมากมาย ซึ่งสุดท้ายแล้วความสนใจในด้านแฟชั่น และศิลปะของเขาจึงนำไปสู่การถือกำเนิดอีกหนึ่งแบรนด์ที่จะกลายเป็นคลื่นลูกใหม่ของวงการ

จุดกำเนิดของ PEACEMINUSONE

PEACEMINUSONE เริ่มต้นจากนิทรรศการศิลปะในปี 2015 ชื่อ "Peaceminusone: Beyond the Stage" ที่ Seoul Museum of Art ซึ่ง G-Dragon มีคอนเซปต์เกี่ยวกับการ นำเสนอภาพสะท้อนของโลกในอุดมคติผ่านสายตาของเขา โดยนิทรรศการนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่าง G-Dragon กับศิลปินมากหน้าหลายตา และรวบรวมผลงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ ทั้งภาพวาด ศิลปะจัดวาง ภาพเคลื่อนไหว รวมถึงประติมากรรม ซึ่งล้วนแล้วแต่สื่อถึงความฝันของ G-Dragon ที่จะสร้างโลกแห่งอิสรภาพและความคิดสร้างสรรค์ โดย G-Dragon ให้คำนิยามว่า เขาเฝ้าฝันถึงโลกแห่งอุดมคติ ที่ซึ่งเขาจะมีอิสรเสรี และสามารถสร้างสรรค์สิ่งใดก็ได้ผ่านปลายนิ้วมือของเขาเอง แม้ว่าจะมีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่เขาก็จะกอดความหวังเอาไว้และพยายามต่อไป จนกว่าที่ฝันของเขาจะเป็นจริง

จนในปี 2016 เพียง 1 ปีหลังจากนิทรรศการ GD ร่วมมือกับสไตล์ลิสต์คนสนิทประจำวง BIGBANG อย่าง Gee-Eun สร้างแบรนด์สตรีทแฟชั่นที่ขับเคลื่อนด้วยจิตวิญญาณของ “G-Dragon” เหมือนเดิม รวมถึงใช้ผลงานเก่า ๆ ของเขาเป็นส่วนประกอบร่าง ทั้งจากปกอัลบั้มเพลง Coup d'Etat โดยนำเอาสัญลักษณ์ ‘PEACE’ หรือสัญลักษณ์สันติภาพมาลบออกไป 1 ขีด จนกลายเป็น Logo ที่อ่านได้ว่า GD รวมถึงดอกเดซีที่กลีบดอกของมันหลุดหายไป 1 กลีบ ซึ่งดอกเดซีนี้คือสิ่งที่เชื่อมระหว่างนิยามของแบรนด์กับตัว GD เอง โดยหากสังเกตให้ดีตำแหน่งที่กลีบหลุดหายไปจะซ้อนทับได้พอดีกับสัญลักษณ์สันติภาพที่ขีดหายไป และตำแหน่งที่หลุดไปนั้นอยู่ที่ทิศ 8 นาฬิกา ซึ่งเลข 8 จะเกี่ยวข้องกับ GD โดยตรง เพราะเขาเกิดวันที่ 8 สิงหาคม 1988 เขียนเรียงเป็นเลขได้ว่า 8/8/1988 นับเป็นการสอดแทรกเรื่องราวส่วนตัวของเขาเข้าไปในแบรนด์อย่างแยบยล และเป็นการผสมผสานระหว่างความเป็นตัวตนเข้ากับวิสัยทัศน์ทางศิลปะที่มีนั่นเอง

Nike G Dragon: การร่วมมือที่สั่นสะเทือนวงการ

ความสัมพันธ์ระหว่าง G-Dragon และ Nike มีมายาวนาน หากเราย้อนดูภาพเก่า ๆ ของเขา จะเห็นได้ว่า G-Dragon ชื่นชอบการใส่รองเท้า Nike เป็นอย่างมาก และเขามักจะจับคู่รองเท้า Nike กับสไตล์การแต่งตัวอันโดดเด่นของตัวเอง ส่งผลให้รองเท้า Nike หลายรุ่นกลับมาเป็นกระแสและขายหมดอย่างรวดเร็ว นั่นเป็นเหตุให้ Nike เห็นถึงศักยภาพและอิทธิพลของ G-Dragon ในฐานะผู้นำทางด้านแฟชั่น จนกระทั่งในปี 2019 ทั้งสองได้ประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการ และปล่อย PEACEMINUSONE x Nike "Air Force 1: Para-Noise" หรือที่รู้จักกันในชื่อ AF1 G Dragon Para-Noise ซึ่งมันได้กลายเป็นปรากฏการณ์ของวงการสนีกเกอร์ในปีนั้น จนถึงขนาดขึ้นแท่นเป็นรองเท้าที่มีราคา Resale แพงที่สุดแห่งปีไปโดยปริยาย

AF1 G Dragon Para-Noise: รองเท้าที่ไม่ใช่แค่รองเท้า

ว่าแต่รองเท้าทรงโมเดล Air Force 1 สีดำธรรมดา ดูไม่มีอะไรพิเศษนอกเสียจากเป็นรองเท้าที่แปะป้ายแบรนด์ PEACEMINUSONE แถมโลโก้ดอกเดซีแหว่ง มันพิเศษแค่เพราะเป็นการใช้ชื่อของ Nike G Dragon เองเหรอ? SASOM ขอบอกว่าไม่ใช่! AF1 G Dragon Para-Noise มันพิเศษยิ่งกว่านั้น เพราะว่ามันคืองาน “ศิลปะ” ที่สะท้อนมุมมองของ G Dragon ที่มีต่องานของเขาและโลกใบนี้ต่างหาก!

แนวคิดเบื้องหลัง Nike Peaceminusone Para-Noise

G-Dragon อธิบายว่า Nike Peaceminusone “Para-Noise" คือเสียงที่เราได้ยินในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเสียงผู้คน ดนตรี หรือธรรมชาติ สิ่งที่หลายคนมองว่าเป็นเสียงรบกวน G-Dragon กลับใช้มันเป็นแรงบันดาลใจ สะท้อนถึงทัศนคติการทำงานที่เปิดกว้าง และยอมรับในความไม่สมบูรณ์แบบของเขา ซึ่งแนวคิดนี้ยังปรากฏในอีกหลายแง่มุม อาทิ เขาเคยบอกว่า ขั้นตอนการทำเพลงของเขาจะเริ่มจากการ "ความยุ่งเหยิงและวุ่นวาย" โดยจะปล่อยให้สิ่งเหล่านั้นทำงานของมันไป ก่อนที่จะจับมาเรียงลำดับและใส่ท่วงทำนองจนออกมาเป็นเพลง รวมถึงในทางแฟชั่น G-Dragon บอกว่ากว่าเขาจะค้นพบสไตล์ที่ใช่ มันก็ต้องผ่านการ “เอ๊ะ” มาบ้างเหมือนกัน ซึ่งมีอยู่บ่อยครั้งที่เขาเองก็รู้สึก “เขิน” ในแฟชั่นของตน แต่เขาก็เชื่อว่าแฟชั่นมันไม่มีผิดถูก และทุกอย่างต้องมีครั้งแรกทั้งนั้น นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้สไตล์ของเขาโดดเด่น เพราะเขาไม่กลัวที่จะผิดพลาดและไม่กลัวที่จะแตกต่าง

ซึ่งทัศนคติในการทำงานนี้เองทำให้ G-Dragon ถูกจัดว่าเป็นคนที่มีความ "ลื่นไหล" ในตนเองสูง และเป็นคนแรกในวงการ K-pop ที่ทำลายข้อจำกัดของเพศในการแต่งตัว จนสร้างลุคไร้เพศ หรือ ANDROGYNOUS STYLE ที่ได้ส่งอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงต่อสังคมนั่นเอง

ลักษณะเด่นของรองเท้ารุ่นนี้คือ

1. Upper Material: ผิวหนังอัปเปอร์สีดำที่หลุดลอกได้ เผยให้เห็นงานศิลปะของ G-Dragon ที่ซ่อนอยู่ด้านใต้ ยิ่งใช้นานเท่าไร งานศิลปะก็จะยิ่งปรากฏชัดขึ้นเท่านั้น สะท้อนแนวคิดของการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงผ่านกาลเวลา

2. Swoosh Design: โลโก้ Nike ที่ได้รับการออกแบบใหม่ ให้มีลักษณะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับคอลเลกชันนี้ และมีสีสันทีหลากหลาย

3. Tongue & Sockliner: มีโลโก้ดอกเดซี PEACEMINUSONE บนลิ้นรองเท้า และ Sockliner ที่มีลวดลายสไตล์งานศิลปะของ G-Dragon เอง

4. Midsole and Outsole: มีการป้ายสีดำแบบสุ่มบน midsole และ outsole เพื่อสร้างเอกลักษณ์ และความไม่สมบูรณ์แบบอย่างตั้งใจ สะท้อนถึงปรัชญาการทำงานของ G-Dragon ที่ยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบ

ทั้งหมดเป็นเหตุผลให้ Nike Para Noise กลายเป็นรองเท้าที่มีจุดเด่นอย่างการ “หลุดลอก’ ในการนำเสนอตนเอง เพราะทุกครั้งที่ Nike Para Noise ผ่านการใช้งาน สีดำที่หลุดออกย่อมเป็นส่วนที่คาดเดาไม่ได้ แต่นั่นก็ทำให้มันกลายเป็นรองเท้าที่ไม่ซ้ำกันเลยสักคู่เดียว เพราะความคาดเดาไม่ได้จึงไม่เหมือนใคร เพราะแรงเสียดทานของการใช้ชีวิต ชีวิตจึงเผยให้เห็นศิลปะอันงดงามที่ซ่อนอยู่ภายใน

สรุป

แม้จะมีบางคนที่ตั้งข้อครหาเกี่ยวกับตัว ควอน จียง อยู่บ้างว่าเขาอาจเป็นแค่ไอดอลเพลง K-pop หรือแม้กระทั่งเป็นเพียงผลผลิตในอุตสาหกรรมเพลงที่ปราศจากจิตวิญญาณของสุนทรียศาสตร์ แต่เชื่อว่าตอนนี้จียงคงจะทำให้เห็นแล้วว่าตัวเขาไม่ว่าจะในฐานะ “ควอน จียง” หรือ “G-Dragon” ล้วนคือศิลปินที่ไม่ต่างอะไรกับ ปิกัสโซ่ หรือ เบ โธเฟน เพราะท้ายที่สุดแล้วทุกคนต่างมีความเป็นศิลปินซุกซ่อนอยู่ภายใน และ G-Dragon คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของคำว่า “ไม่ว่าอะไรก็ตาม หากเราเชื่อและพยายามอย่างไม่ลดละ เราจะเป็นได้ทุกอย่าง…ด้วยสองมือของเราเอง”

PEACEMINUSONE x Nike Air Force 1 Low: Para-Noise 3.0

วันที่ 14 นี้ทาง PEACEMINUSONE ก็กำลังจะปล่อย Para-Noise 3.0 ซึ่งเป็นคู่ที่แฟน ๆ ต่างรอมานานเกือบ 4 ปี โดยจะยังมาในรูปคล้ายเดิม แต่เพิ่มเติมคือ Swoosh หลากสี และไม่ซ้ำกันในแต่ละข้าง เรียกได้ว่าเป็นไอเทมที่สาวก Nike G Dragon หรือ PEACEMINUSONE ไม่ควรพลาดเด็ดขาด และถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วสงสัยว่าจะสั่งซื้อได้ที่ไหน บอกได้เลยว่า SASOM มีพร้อมครบจบ! เพราะไม่ว่าจะแรร์แค่ไหนก็ขอให้บอก หายากแต่เราหาได้เสมอ เลือกซื้อ PEACEMINUSONE x Nike ได้เลยทันที!

สนใจสินค้า เสื้อผ้า สนีกเกอร์ Nike G Dragon หรือ PEACEMINUSONE ต่าง ๆ สามารถสั่งซื้อ พร้อมเช็กราคาสินค้าเพิ่มเติมได้แล้ววันนี้ที่ เว็บไซต์: www.sasom.co.th หรือดาวน์โหลด SASOM Application: https://sasom.onelink.me/xn2K/o1oieutk และอ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่: https://sasom.co.th/articles

อ้างอิง

https://snkrdunk.com/en/magazine/2024/08/30/snkrdunk-spotlight-peaceminusone-g-dragon/ https://www.dazeddigital.com/fashion/article/34630/1/talking-fashion-with-g-dragon-k-pop-interview-peaceminusone

https://www.nike.com/th/launch/t/air-force-1-low-peaceminusone-para-noise https://soled-the-vault.de/en/products/nike-air-force-1-low-g-dragon-peaceminusone-para-noise?srsltid=AfmBOoo1fzlJm2bKmCsnqiP8fdwc6SGgH_tHTnVZD0GePxrL7Ax5bEcs

https://www.modernnotoriety.com/peaceminusone-nike-air-force-1-para-noise-3-aq3692-004-release-date/

https://thestandard.co/7-things-we-love-about-g-dragons-style/

Recommended